ปัจจุบันผู้ป่วยโรคเบาหวานมีการใช้เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองชนิดพกพากันมากขึ้น เนื่องจากใช้งานง่าย สะดวก และให้ผลรวดเร็ว ดังนั้นกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ฉบับนี้จึงนำสาระน่ารู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองชนิดพกพา ตลอดจนการเลือกซื้อมาฝากผู้อ่าน ข้อบ่งชี้การตรวจน้ำตาลในเลือด - ผู้ป่วยที่ต้องการควบคุมเบาหวานอย่างเข้มงวด - ผู้ป่วยที่มีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำบ่อยๆ - ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฉีดอินซูลิน - ผู้ป่วยที่ควบคุมเบาหวานไม่ได้ - ผู้ที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยเป็นเบาหวาน ต้องการเรียนรู้การดูแลตนเอง วิธีตรวจน้ำตาลในเลือด 1. เตรียมเครื่องตรวจวัด และแถบทอดสอบหรือตลับทดสอบให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน 2. ปรับระดับความลึกของอุปกรณ์เข็มเจาะเลือดให้เหมาะสมกับสภาพความหนาของผิวบริเวณปลายนิ้ว 3. ล้างมือให้สะอาด และทำให้แห้ง 4. เจาะบริเวณด้านข้างของปลายนิ้วกลาง หรือนิ้วนาง 5. เจาะเลือดในปริมาณเพียงเล็กน้อยที่บริเวณปลายนิ้ว ไม่ควรบีบเค้น 6. กรณีที่เลือดไม่เพียงพอ ห้ามเค้นเลือด ให้เพิ่มระดับความลึกของเข็ม และเจาะเลือดใหม่โดยเปลี่ยนบริเวณที่เจาะ ไม่ซ้ำบริเวณเดิม 7. ตรวจวัดน้ำตาลในเลือดตามขั้นตอนการตรวจวัดของคู่มือการใช้งานหรือเอกสารกำกับที่มาพร้อมกับเครื่องตรวจวัด 8.
ขั้นตอนการทดสอบ นำอุปกรณ์ทั้งหมดออกมาจากกล่อง และตรวจสอบว่าครบหรือไม่ อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือไม่ (ตรวจสอบจาก คู่มือการทดสอบ) 1. ฉีกซอง แผ่นแอลกอฮอล์ ที่ให้มา และนำ แผ่นแอลกอฮอล์ ออกมา 2. นำแผ่นแอลกอฮอล์ นั้น มาทำความสะอาด ปลายนิ้วมือ ที่ต้องการจะเจาะเลือด ในระหว่างที่เช็ด ให้ทำการบีบนวด ปลายนิ้ว ไปด้วย เพื่อให้เลือด ไหลเวียน 3. บิด ปลอกเข็มซ่อนปลาย ไปทางซ้าย หรือขวาหนึ่งรอบ และดึงปลอกออก จากนั้น บีบเค้น ปลายนิ้ว ด้านที่ต้องการ จะเจาะเลือดเล็กน้อย และ แนบด้านปลาย ของเข็ม ลงบนปลายนิ้ว จับให้มั่น แล้วกดลงไป อย่างรวดเร็ว (เราจะได้ยินเสียงดีด ของเข็ม ซึ่งนั่นแสดงว่า เข็มได้ทำการเจาะลงไป เรียบร้อยแล้ว) 4. ค่อยๆ กด และบีบ ไล่เลือดออกมา เป็นหยดกลมเล็ก ขนาดเท่า หัวเข็มหมุด (หัวไม้ขีดไฟ) แล้วใช้ หลอดดูดพลาสติก ดูดเลือดจากปลายนิ้ว 5. จากนั้น หยดเลือด จากปลายนิ้ว ที่อยู่ ในหลอดดูดพลาสติก ลงในช่อง A ของตลับทดสอบ 2 – 3 หยด 6. เปิด หลอดน้ำยาบัฟเฟอร์ แล้วใช้ หลอดพลาสติก ดูดสารอีกหนึ่งอัน ดูด น้ำยาบัฟเฟอร์ (Buffer) ออกมา 7. หยดน้ำยา Buffer ลงในช่อง B ของ ตลับทดสอบ 2 – 3 หยด 8. เมื่อเรียบร้อยแล้ว ให้จับเวลา ทิ้งไว้ ประมาณ 5 – 15 นาที แล้วอ่านผล ห้าม!!
ปรอท และตัวล่างไม่เกิน 80มม. ปรอท เรียกสั้น ๆ ว่า 120/80 และความดันสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคความดันความดันโลหิตสูง คือ ความดันโลหิตตัวบนมากกว่าหรือเท่ากับ 140 มม. ปรอทและตัวล่างมากกว่าหรือเท่ากับ90 มม. ปรอท ดังนั้นประชาชนควรหมั่นตรวจวัดความดันของตนเองอย่างมสม่ำเสมอและหากพบว่าตนเองมีอาการแขนขาอ่อนแรงเฉียบพลัน มึนงง วิงเวียน ทรงตัวไม่ได้ ใบหน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด พูดไม่ได้ ซึ่งส่วนมากทุกอาการจะเกิดขึ้นพร้อมกันอย่างฉับพลัน จะต้องรีบขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ หรือโทรสายด่วน 1669 เพื่อนำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอย่างทันที
ถามแพทย์ Feb 24, 2018 at 02:04 AM สวัสดีครับคุณหมอ เมื่อ2วันก่อนผมโดนประตูหนีบนิ้ว มีการขาดของหนังที่โคนเล็บและมีเลือดไหลปรัมาณ5cc บวมไม่มาก(ตัดหนังออกเองแล้ว) เลือดคลั่งใต้เล็บ90%สีม่วง ปัจจุบันปวดปานกลาง และเจ็บชาตึงๆบริเวณใต้เล็บถึงปลายเล็บ ไม่เคยประคบอะไรเลยเพราะทนได้ เจาะเลือดแล้วไม่ออก เลือดแข็งไปแล้วกดที่เล็บแล้วยังมีความรู้สึกเจ็บ อยากถามเรื่อง 1. อาการกระตูกแตก 2. ถ้าปล่อยทิ้งไว้มันจะดันเล็บม่วงไปเรื่อยปกติแล้วหายเองรึเปล่า หรือจะเน่าครับ 3. ถ้าจำเป็นต้องถอดเล็บ ค่าใช้จ่ายรพ. รัฐโดยประมาณ(รามาฯ) Feb 24, 2018 at 02:52 AM สวัสดีครับ ตามปกติบริเวณใต้เล็บเป็นเนื้อเยื่ออ่อน หากได้รับอุบัติเหตุอาจมีการฉีกขาดเลือดออกได้ เรียกว่าภาวะเลือดออกใต้เล็บ(Subungeal hematoma) นอกจากนี้จำเป็นต้องระวังภาวะกระดูกปลายนิ้วแตกหักด้วย 1. หากเลือดออกน้อยกว่า 50 เปอเซนต์ของเล็บทั้งหมด ให้รักษาด้วยวิธี รับประทานยาแก้ปวด ประคบเย็น รอยเลือดออกจะหายไปได้ตามปกติ 2. หากเลือดออกมากกว่า 50 เปอเซนต์ของเล็บ การรักษาได้แก่การให้เข็มร้อนเจาะระบายเลือด หรือการถอดเล็บเพื่อเย็บซ่อมเเซมเนื้อเยื่อที่ฉีกขาดใต้เล็บ นอกจากนี้จำเป็นต้องตรวจเอกเรย์กระดูกปลายนิ้วเพื่อหาภาวะกระดูกปลายนิ้วที่แตกหรือหัก ในกรณีของคุณถ้าปล่อยทิ้งไว้ อาจจะหายได้เองแต่ใช้ระยะเวลาการรักษานานครับ นอกจากนี้หากเลือดออกใต้เล็บมาก แนะนำให้มารับการตรวจเพื่อหาว่ามีภาวะเนื่อเยื่อใต้เล็บฉีกขาด หรือ กระดูกแตกหักไหม การรักษาถ้ารักษาที่โรงพยาบาลรัฐบาลตามสิทธิ์การรักษาไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายครับ Share: หัวข้อสนนทนาที่เกี่ยวข้อง
อ่านผลหลัง 30 นาที ตรวจสอบจากคู่มือการทดสอบ
หลีกเลี่ยงการเจาะเลือดจากเส้นเลือดที่มีการให้น้ำเกลือ ยาหรือสารต่างๆ ทำให้ผลผิดปกติ เช่น High FBS หมายเลขบันทึก: 286417 เขียนเมื่อ 12 สิงหาคม 2009 08:46 น. () แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 17:32 น.
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับผู้ป่วย เส้นเลือดในสมองแตก อาการปวดหัวแบบกระทันหันอาจเป็นสาเหตุของโรค เส้นเลือดในสมองแตก ได้ เพราะฉะนั้นเรามารู้จักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถูกวิธีเมื่อเกิดอาการกันค่ะ Question ได้อ่านงานเขียนหนึ่งที่ระบุถึงวิธีการปฐมพยาบาลผู้ที่เกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตกตามหลักการแพทย์แผนโบราณของไต้หวัน โดยการใช้เข็มเจาะที่นิ้วทั้งสิบของผู้ป่วยแล้วบีบนวดให้เลือดไหลออกมา ผู้ป่วยจะฟื้นคืนสติอยากทราบว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัยหรือไม่ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ปลอดภัยที่สุดควรทำอย่างไร Answer ภาวะเส้นเลือดในสมองแตกเกิดจาก 2 สาเหตุหลัก ได้แก่ 1. เส้นเลือดเปราะเนื่องจากอายุมากขึ้นหรือมีไขมันเกาะภายในเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดไม่ยืดหยุ่น 2. ความดันในเส้นเลือดเพิ่มขึ้นเนื่องจากความเครียดซึ่งทำให้เส้นเลือดหดตัว หรือมีปริมาตรเลือดในเส้นเลือดเพิ่มขึ้น ตามที่กล่าวอ้างมา การปฐมพยาบาลโดยการบีบเลือดออกจากปลายนิ้วจัดเป็นการลดปริมาตรเลือด อาจจะทำให้ความดันโลหิตลดลงได้บ้าง แต่ยังไม่ใช่การรักษาที่แนะนำจึงขอให้ข้อมูลของการปฐมพยาบาลผู้มีภาวะเส้นเลือดในสมองแตกที่ถูกต้องและปลอดภัยไว้ดังนี้ เมื่อเกิดภาวะเส้นเลือดแตกอาจทำให้หมดสติเนื่องจากเลือดที่ออกในสมองไปกดทับสมองส่วนที่เกี่ยวกับการรับรู้และการรู้สึกตัว การปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่แนะนำคือ การป้องกันอาการแทรกซ้อนจากการหมดสติ เช่น สำลัก โดยปฏิบัติดังนี้ 1.
เข็มที่ใช้เจาะ ใช้เข็มเบอร์ 21, เข็มเบอร์ 18 ในเด็กใช้เบอร์ 24 2. การใส่เลือดลงใน tube ไม่ควรฉีดเลือดลงใน tube ให้ใช้เข็มแทงลงไปใน tube ให้ความเป็น สูญญากาศใน Tube ดูดเลือดลงไปเอง 3. ควรเจาะเลือดคนละเส้น กับเส้นที่ให้ IV 4. กรณีที่ต้องใช้วิธีการดูดเลือดจาก Medicat การดูดควรทำด้วยความนุ่มนวล 5. วิธีในการเรียงลำดับ การนำเลือดลงใน Tube เลือด กรณีมีการเจาะเลือดส่งตรวจหลายอย่าง พร้อมๆ กัน เพื่อป้องกันการ Contaminate สารที่อยู่ใน Tube ซึ่งจะมีผลทำให้ผลการตรวจผิดไป 1. Tube สีฟ้า 2. Tube สีแดง -ปลายเข็มไปชิดหรือสัมผัสกับผนังหลอดเลือด การแก้ไขหรือข้อควรระวัง 1. การใช้นิ้วสัมผัสเส้นเลือดเพื่อหาทิศทางและตำแหน่งก่อนทำความสะอาดให้แม่นยำจะช่วยในการบอกตำแหน่งและความลึกของเส้นเลือดก่อนทำการเจาะ 2. กรณีของเส้นเลือดผู้สูงอายุเส้นเลือดจะมีลักษณะแข็งและพลิกดิ้นไปมาขณะแทงเข็มดังนั้นต้องยึดหรือจับเส้นเลือดผู้ป่วยให้นิ่งอยู่กับที่โดยการยึดผิวหนังตึง ก่อนจะแทงเข็ม 3. กรณีแทงเข็มทะลุเส้น การถอนเข็มออกมาเล็กน้อยจะสามารถจัดทิศทางของเข็มทำให้เข็มเข้าไปอยู่ในเส้นเลือดได้ 4. กรณีปลายเข็มไปชิดหรือสัมผัสกับหลอดเลือด การขยับปลายเข็มเล็กน้อย ขยับซ้ายขวา หรือขยับขึ้นลงเล็กน้อยจะทำให้ปลายเข็มหลุดจากการสัมผัสผนังหลอดเลือดได้ 5.
และขอให้หยุดแชร์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย โดยก่อนหน้านี้ คุณหมอแมว พิรัตน์ โลกาพัฒนา ได้เคยโพสต์เตือนเรื่องนี้ไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว แล้วว่า การเจาะเลือดที่ปลายนิ้วหรือที่หู เพื่อรักษาโรคเส้นเลือดโลหิตในสมองแตก เป็นการปฐมพยาบาลที่ผิด ตามเนื้อหาต่อไปนี้ "ขอความกรุณาหยุดแชร์เรื่อง การรักษาโรคเส้นเลือดโลหิตในสมองแตกด้วยการเจาะเลือดที่หู (หรือปลายนิ้ว) 0. เป็นสิ่งที่ผิด เป็นการปฐมพยาบาลที่ผิด 1. โลหิตในสมองแตก มักแยกไม่ได้จากเส้นเลือดในสมองตีบ (บางกรณีแยกได้ แต่จะแยกจริง ๆ ควรใช้ x-ray สมอง) 2. ในเส้นเลือดในสมองแตก จะเกิดการกดเบียดในเนื้อสมอง แรงดันในสมองมากขึ้น ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองลดลง ร่างกายจะตอบสนองโดยเพิ่มความดันในสมองให้สูงขึ้นเพื่อไปเลี้ยงสมอง ในการรักษาทางการแพทย์จะลดความดันแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น และทำก่อนรอการไปผ่าตัด ซึ่งการเจาะเลือดที่หูไม่ช่วยอะไร 3. ในบางรายที่เจาะแบบนั้นแล้วดีขึ้นเอง แปลว่าคนไข้เป็น "เส้นเลือดในสมองตีบ" ครับ และไม่ได้ดีขึ้นเพราะเจาะเลือดนะครับ เพราะเส้นเลือดสมองตีบบางราย โดยเฉพาะกลุ่มที่เรียกว่า TIA อาการจะดีขึ้นเอง ดังนั้นจะเจาะเลือดที่ติ่งหู ปลายนิ้ว จะรำระบำหน้าท้อง หรือตัดเล็บเท้า หรือเปิดช่องพลังเพอร์ซิอุส นับ 1-2-3 เปิดการ์ตูนเน็ตเวิร์ก เปิดช่องเวิร์คพอยท์ให้คนไข้ดู ก็หายเหมือนกัน 4.
02-416-6322 063-652-2393 [email protected] Line Facebook-f Youtube Twitter Instagram All Day: 8:00 - 21:00 จัดการคำสั่งซื้อ Menu หน้าแรก โปรโมชั่น Promotion ประจำเดือน FlashSale สินค้าลดล้างสต็อค สินค้า สินค้าใหม่ หมวดหมู่สินค้าทั้งหมด ยืนยันการโอนเงิน สาระน่ารู้ ขอใบเสนอราคา ติดต่อเรา นโยบายการเปลี่ยนคืนสินค้าและการคืนเงิน B-Service บริการหลังการขาย วิธีการสั่งชื้อสินค้า เกี่ยวกับเรา Menu เข้าสู่ระบบ User Login! Username or Email Password บันทึกการใช้งานของฉัน Lost Password? ลงทะเบียน Facebook Google ฿ 0 Cart Cart
ระบบ I Smart Mg Zs, 2024