9 องศาเซลเซียสเป็นเวลานาน จะมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ มีรายงานพบว่าในหญิงตั้งครรภ์ที่อาบน้ำร้อนจัดเกิน 38.
ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ การดื่ม แอลกอฮอล์ ในขณะตั้งครรภ์โดยเฉพาะช่วงตั้งครรภ์อ่อนๆ เป็นช่วงที่ระบบประสาทและสมองกำลังพัฒนามากที่สุด แอลกอฮอล์จะเข้าไปทำลายเซลล์ประสาท ทำให้ทารกเมื่อคลอดออกมาอาจมีอาการผิดปกติทางระบบประสาท โครงสร้างสมองผิดปกติ ศีรษะเล็ก สติปัญญาบกพร่อง ความจำไม่ดี สมาธิสั้น อยู่นิ่งไม่ได้ ในกรณีที่คุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มแอลกอฮอล์มากๆ ทารกเสี่ยงป่วยด้วยโรค Fetal alcohol syndrome โดยมีอาการคือใบหน้าส่วนกลางพัฒนาผิดปกติ ดั้งจมูกแบน ปลายจมูกเชิด หนังคลุมหัวตามาก ช่วงตาสั้น ริมฝีปากบนเรียบ ยาว และบาง 8. ห้ามอบซาวน่า ขณะตั้งครรภ์ อุณหภูมิร่างกายจะสูงอยู่แล้ว หากไปอบซาวน่าอีกจะทำให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น ทำให้สูญเสียน้ำและเกลือแร่ ทำให้เลือดข้น เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และอุดตันตามเส้นเลือด ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงทารกไม่พอ อาจทำให้ทารกพิการหรือเสียชีวิตได้ 9. ห้ามทำสีผม ยังไม่มีผลการวิจัยที่แน่นอนว่าการทำ สีผม นั้นอันตรายหรือไม่กับทารก แต่หากวิเคราะห์ดูจะเห็นว่าหนังศีรษะเป็นส่วนที่สามารถดูดซึมสารเคมีจากน้ำยาย้อมผมได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงไว้ก่อนจะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของทารกในครรภ์ 10. ห้ามเครียด ความเครียดจะกระตุ้นร่างกายให้หลั่งสารเคมีหรือฮอร์โมนบางตัวที่ทำให้หลอดเลือดแดงตีบแคบ เลือดไหวเวียนไม่สะดวก ออกซิเจนจึงไม่เพียงพอ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารก หากมี ความเครียด สูงตลอดการตั้งครรภ์ ทารกอาจคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย ทั้งนี้ทารกในครรภ์สามารถรับรู้ความเครียดของคุณแม่ได้ หากสมองตอบสนองต่อความเครียดมากไป จะเพิ่มความเสี่ยงให้ทารกคลอดออกมาเป็นเด็กพิเศษ เช่น ออทิสติก หรือเป็นเด็กสมาธิสั้นได้ 11.
พอดีทำติดต่อมาเป็นอาทิตย์แล้วค่ะ เพราะสบายตัวแล้วสิวก็ไม่ค่อยขึ้น แต่ไปอ่านเจอบางที่บอกว่าอบซาวน่าจะคลอดง่าย บางที่บอกอันตรายต่อเด็กแต่ส่วนใหญ่บอกว่าอบเป็นชั่วโมงจะเกิดอันตราย ส่วนเราอบวันละ5-15นาที รอบเดียวไม่เกินนี้ เราเลยไม่รู้จะเชื่ออันไหนดี แล้วเราเองรู้สึกผ่อนคลายเวลาเข้าตู้ด้วย ตู้ที่เราอบเป็นแบบใช้หม้อหุงข้าวให้ไอน้ำหนะค่ะ แสดงความคิดเห็น
บำรุงผิวหน้าโดยใช้ครีม: สามารถทำได้เพียงแต่ควรหลีกเลี่ยงสารที่มีวิตามินเอ หรือปรึกษากับแพทย์ผู้ดูแลครรภ์ก่อนค่ะ 8. ออกกำลังกายได้ไหม: ทำได้ คนท้องควรออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อเตรียมความพร้อมตอนคลอดบุตร การออกกำลังกายที่คุณแม่ควรทำคือ ว่ายน้ำ โยคะ เดินเล่น เป็นต้น 9. เดินทางท่องเที่ยว: สามารถทำได้แต่ควรจะเป็นในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2 เพราะไตรมาสแรกคุณแม่อาจมีอาการแพ้ท้อง เหนื่อยล้า และช่วงไตรมาสสุดท้าย คุณแม่อาจจะคลอดได้ตลอดเวลา ดังนั้นการเดินทางท่องเที่ยวที่ดีที่สุดคือช่วงไตรมาสที่ 2 ค่ะ 10. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ควรหลีกเลี่ยงเพราะอาจทำให้เด็กพิการหรือเสียชีวิตได้ค่ะ อ่านต่อหน้าถัดไปคลิก >> 1 2
The American College of Obstetricians and Gynecologists, CH. 5 Pregnancy, Childbirth, and the Newborn: The Complete Guide. Simkin, Penny P. T., et al, CH. 5. บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ (1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก) ตั้งกระทู้ถามหมอ
ช่วงเวลา ตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่ต้องคอยระวังอะไรหลายๆอย่าง ยิ่งเป็นคุณแม่มือใหม่ท้องแรกก็จะยิ่งป็นกังวลและอยากรู้ว่าสิ่งไหนทำได้หรือสิ่งไหนห้ามทำ เราจึงรวมคำตอบมาให้มากมาย ดังนี้ค่ะ 20 ข้อที่คนท้องมักสงสัย.. สิ่งไหนทำได้หรือห้ามทำ 1. ทำเล็บได้หรือไม่: ถ้าต้องการทำจริง ๆ ก็ทำได้แต่ต้องดูอุปกรณ์การทำเล็บว่าสะอาดดีหรือไม่ เสี่ยงกับการติดเชื้อหรือไม่ และสารเคมีที่ทำมีกลิ่นฉุนจนจะทำให้คุณแม่เป็นลมหรือไม่ ถ้าปลอดภัยก็ทำได้ค่ะ 2. ทำสีผมได้หรือไม่: สามารถทำได้ค่ะ แต่ควรจะให้พ้นช่วงไตรมาสแรกไปก่อนเพราะ ใน 3 เดือนแรกลูกกำลังพัฒนาระบบอวัยวะในร่างกายให้ครบถ้วน และไม่ดีแน่ถ้าคุณแม่นำสามารถเคมีต่าง ๆ มาไว้ใกล้ตัวค่ะ 3. แช่น้ำอุ่น อบซาวน่าได้หรือไม่: อาบน้ำอุ่นทำได้ค่ะ เพื่อให้เลือดหมุนเวียนดี แต่ซาวน่าไม่แนะนำเพราะอาจมีผลกับระบบการทำงานของ มดลูก ได้ค่ะ 4. ทำสปาได้หรือไม่: สามารถทำได้โดยการใช้สมุนไพรเพื่อนวดคลายความเมื่อยล้า ช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลายได้ค่ะ 5. นวดได้หรือไม่: สามารถทำได้ โดยผู้นวดควรมีความเชี่ยวชาญในการนวดคนท้องว่าจุดไหนสามารถนวดได้ทางที่ดีควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนค่ะ 6. ทำหน้าได้หรือไม่: ถ้าคุณต้องการบำรุงผิวหน้าสามารถทำได้โดยการใช้ครีมหรือส่วนผสมของสมุนไพร ไม่ควรใช้เครื่องมือที่เป็นไฟฟ้า หรือ เป็นสารไมโคร กับผิวหน้าเพราะอาจเป็นอันตรายกับทารกในครรภ์ได้ค่ะ 7.
เมื่อตั้งครรภ์ สิ่งที่ควรใส่ใจมากเป็นพิเศษคือความปลอดภัย เพราะร่างกายคุณแม่จะอ่อนแอมาก การติดเชื้อ การรับสารเคมีหรืออันตรายต่างๆ เกิดขึ้นได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อตัวคุณแม่เองแล้วยังส่งผลต่อทารกในครรภ์ด้วย สำหรับคนท้องอ่อนๆ 1-3 เดือนมีข้อควรระวังหรือห้ามทำในสิ่งใดบ้าง วันนี้เรามี 14 ข้อปฎิบัติมาบอกกล่าวกันค่ะ 14 ข้อต้องรู้... เพื่อความปลอดภัยสำหรับคนท้อง 1-3 เดือน 1. ห้ามทานอาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารที่ไม่สุก อาจจะปนเปื้อนเชื้อโรคหรือแบคทีเรีย รวมไปถึงพยาธิ ที่อาจติดต่อไปยังทารกในครรภ์ได้ 2. ห้ามทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งนานเกินไป คุณแม่บางท่านกังวลว่าลูกน้อยอาจจะ ขาดสารอาหาร จึงทานอาหารบางอย่างมากเกินไป เช่น อยากให้ลูกตัวสูงก็ดื่มนมเยอะๆ ซึ่งพฤติกรรมการทานอาหารแบบนี้จะทำให้ลูกน้อยคลอดออกมาเสี่ยงเป็นภูมิแพ้อาหารชนิดนั้นๆ ได้ 3. ห้ามทานอาหารทะเลบางชนิด อาหารทะเลบางชนิดอย่าง หอย หรือปลาทะเลน้ำลึก มีสารปรอทสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งสารปรอทนี้ทำลายระบบประสาทและสมองของทารก ตัวอย่างปลาที่ไม่ควรทาน เช่น ปลาโทงเทง ปลาฉลาม ปลาดาบ ปลาอินทรี ส่วนปลาทูน่า ปลาแซลมอน สามารถทานได้แต่ควรทานเพียงเล็กน้อยค่ะ 4.
ห้ามออกกำลังกายหรือทำงานหักโหม ใน ช่วงตั้งครรภ์อ่อนๆ หากทำงานหนักหรืออกกำลังกายหักโหม อาจจะทำมีภาวะแท้งคุกคามหรือแท้งจริงๆ เลยก็ได้ ดังนั้นในช่วงนี้ควรพักผ่อนให้มากๆ หากต้องทำงานหรืออกกำลังกาย เลือกงานที่เบาๆ ใช้แรงไม่มาก จะได้ไม่อันตรายต่อทารกในครรภ์ เพราะใน ช่วงตั้งครรภ์ 1-3 เดือน เป็นช่วงที่ร่างกายเปราะบางเป็นพิเศษ เนื่องจากอวัยวะสำคัญของทารกกำลังพัฒนาและเป็นช่วงที่เกิดภาวะแท้งง่าย ดังนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์อ่อนๆ ควรใส่ใจทำตามข้อควรปฎิบัติและข้อห้ามต่างๆ อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณแม่ และลูกน้อยในครรภ์นะค่ะ
พูลศักดิ์ ไวความดี สูติแพทย์
ระบบ I Smart Mg Zs, 2024