ทำความสะอาดตู้เย็น ก่อนอื่นถอดปลั๊กตู้เย็นเพื่อความปลอดภัย แล้วนำของออกจากตู้เย็นให้หมด ถอดชิ้นส่วนต่างๆ ออกมาล้างแล้วตากให้แห้ง ใช้ผ้าสะอาดหรือฟองน้ำชุบน้ำผสมเบกกิ้งโซดาเช็ดตู้เย็นให้ทั่ว แล้วเช็ดให้แห้งก่อนจะใช้งานอีกครั้ง 10.
ทำความสะอาดเตาอบ เริ่มจากถอดตะแกรงออกมาแช่น้ำอุ่นผสมน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจานประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นจึงใช้ฟองน้ำขัดทำความสะอาดตะแกรงก่อนนำไปตากลมให้แห้ง เสร็จแล้วผสมเกลือป่น ¼ ถ้วยตวง, เบกกิ้งโซดา ¾ ถ้วยตวง และน้ำสะอาด ¼ ถ้วยตวง โดยก่อนป้ายสวนผสมที่เตรียมไว้ให้ทั่วเตาอบ ให้ใช้กระดาษฟอยล์หุ้มส่วนผังวงจรหรือส่วนที่ไม่ควรโดนน้ำให้มิดชิดก่อนจึง ค่อยละเลงน้ำยาที่ผสมลงไป ทิ้งไว้ข้ามคืน วันรุ่งขึ้นค่อยเช็ดคราบออกด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาด 6. ล้างตู้เย็น ถอดปลั๊กตู้เย็นเพื่อความปลอดภัยแล้วเริ่มเคลียร์พื้นที่ตู้เย็นให้โล่ง รวมทั้งถอดชิ้นส่วนที่ถอดได้ออกมาล้างด้วยน้ำยาล้างจานเสร็จแล้วตากลมให้ แห้ง จากนั้นผสมเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ ¼ ถ้วยตวง สำหรับใช้เป็นน้ำยาล้างตู้เย็น แล้วจัดการทำความสะอาดตู้เย็นด้วยฟองน้ำหรือผ้าขนหนูให้ทั่วทุกตารางนิ้ว ตามด้วยเช็ดคราบออกด้วยผ้าชุบน้ำ ก่อนเช็ดพื้นที่ให้แห้งอีกครั้ง แล้วนำชิ้นส่วนที่ถอดออกไปล้างกลับเข้าที่ตามเดิม 7. ทยอยนำอาหารเข้าตู้เย็น เมื่อคัดแยกอาหารเน่าเสียออกไปแล้ว ให้คุณทยอยเก็บอาหารที่เหลือเข้าตู้เย็น โดยก่อนแช่ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคราบสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกาะติด อยู่ออกไปให้หมดจด พร้อมกันนั้นแนะนำให้เทเบกกิ้งโซดาใส่ถ้วยแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นเพื่อดับ กลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วยนะคะ 8.
นำขยะไปทิ้ง งานสุดท้ายให้คุณไล่เก็บขยะจากทุกส่วนใส่ถุงปิดปากถุงให้สนิท ก่อนนำออกไปทิ้งให้เรียบ แค่นี้ก็เรียบร้อย
ทำความสะอาดเตาอบ เริ่มจากถอดตะแกรงออกมาแช่น้ำอุ่นผสมน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจานประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นจึงใช้ฟองน้ำขัดทำความสะอาดตะแกรงก่อนนำไปตากลมให้แห้ง เสร็จแล้วผสมเกลือป่น ¼ ถ้วยตวง, เบกกิ้งโซดา ¾ ถ้วยตวง และน้ำสะอาด ¼ ถ้วยตวง โดยก่อนป้ายสวนผสมที่เตรียมไว้ให้ทั่วเตาอบ ให้ใช้กระดาษฟอยล์หุ้มส่วนผังวงจรหรือส่วนที่ไม่ควรโดนน้ำให้มิดชิดก่อนจึงค่อยละเลงน้ำยาที่ผสมลงไป ทิ้งไว้ข้ามคืน วันรุ่งขึ้นค่อยเช็ดคราบออกด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาด 6. ล้างตู้เย็น ถอดปลั๊กตู้เย็นเพื่อความปลอดภัยแล้วเริ่มเคลียร์พื้นที่ตู้เย็นให้โล่ง รวมทั้งถอดชิ้นส่วนที่ถอดได้ออกมาล้างด้วยน้ำยาล้างจานเสร็จแล้วตากลมให้แห้ง จากนั้นผสมเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ ¼ ถ้วยตวง สำหรับใช้เป็นน้ำยาล้างตู้เย็น แล้วจัดการทำความสะอาดตู้เย็นด้วยฟองน้ำหรือผ้าขนหนูให้ทั่วทุกตารางนิ้ว ตามด้วยเช็ดคราบออกด้วยผ้าชุบน้ำ ก่อนเช็ดพื้นที่ให้แห้งอีกครั้ง แล้วนำชิ้นส่วนที่ถอดออกไปล้างกลับเข้าที่ตามเดิม 7. ทยอยนำอาหารเข้าตู้เย็น เมื่อคัดแยกอาหารเน่าเสียออกไปแล้ว ให้คุณทยอยเก็บอาหารที่เหลือเข้าตู้เย็น โดยก่อนแช่ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคราบสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกาะติดอยู่ออกไปให้หมดจด พร้อมกันนั้นแนะนำให้เทเบกกิ้งโซดาใส่ถ้วยแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นเพื่อดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ 8.
เช็ดช่องแช่แข็งให้สะอาด แม้ช่องแช่แข็งจะมีอุณหภูมิติดลบ ดูเหมือนจะไม่มีความสกปรกเท่าไร ทว่าจุดอับอย่างนี้กลับมีความสกปรกซ่อนอยู่ไม่น้อย ฉะนั้นเราก็ควรทำความสะอาดด้วยการผสมน้ำ 1 ถ้วยตวง, น้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา และน้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา ลงในขวดสเปรย์ เขย่าให้ส่วนผสมเข้ากันดี แล้วนำไปฉีดให้ทั่วช่องแช่แข็ง ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ให้หมดจด แค่นี้คราบสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ทั้งหลายก็หายวับไปกับตาแล้วจ้า 9. จัดระเบียบตู้เก็บของ บางคนเก็บอาหารแห้งไว้ในตู้เก็บของหรือไม่ก็เก็บพวกจาน ชาม และเครื่องครัวต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้หยิบของในตู้มาใช้สักเท่าไร กลายเป็นเปิดโอกาสให้ฝุ่นไรและความสกปรกทั้งหลายมาสะสมอยู่ในนี้เต็มไปหมด ดังนั้นอันดับแรกให้เคลียร์ตู้เก็บของให้โล่ง คัดของหมดอายุและเหลือใช้ทิ้งไป จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดทำความสะอาด ตามด้วยผ้าแห้งทันทีเพื่อป้องกันตู้เก็บของเป็นคราบน้ำ สุดท้ายให้ทยอยเก็บของเข้าตู้เหมือนเดิม 10. เคาน์เตอร์ครัวสะอาดเอี่ยม สำหรับเคาน์เตอร์ครัวที่ถูกใช้งานเป็นประจำควรเช็ดทำความสะอาดทุกครั้งหลังการใช้งาน ทว่าสำหรับคราบหนักฝังแน่นต้องจัดการด้วยน้ำยาทำความสะอาดสำหรับห้องครัว โดยเลือกชนิดน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมกับพื้นผิวเคาน์เตอร์ของคุณด้วย 11.
1. ถอดหัวเตาออกมาทำความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้า ส่วนมากเตาจะสามารถถอดประกอบได้หมด และก็มักจะเปื้อนไปด้วยคราบอาหารและเศษอาหารด้วย ฉะนั้นให้ถอดส่วนประกอบของเตาออกมาทำความสะอาดก่อนเป็นอันดับแรก โดยใช้น้ำล้างจานผสมน้ำอุ่นและฟองน้ำขัดทำความสะอาด แต่ในส่วนหัวเตาแนะนำให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดจนเกือบแห้งค่อย ๆ เช็ดเศษสกปรกที่ตกค้างอยู่ให้หมดไป 2. ทำความสะอาดหน้าเตา หลังจากล้างส่วนเตาแล้วตากทิ้งไว้ คราวนี้ถึงเวลาทำความสะอาดหน้าเตาแล้วค่ะ อุปกรณ์ก็เหมือนเดิม แค่น้ำอุ่น, น้ำยาล้างจาน และฟองน้ำนุ่ม ๆ เท่านั้นพอ ทว่าหากเจอคราบกำจัดยากอาจต้องขอแรงเบกกิ้งโซดาผสมน้ำส้มสายชูมาช่วยหมักคราบก่อนเช็ดออกด้วยฟองน้ำหมาด 3. จัดการปุ่มเปิดเตา ปุ่มเปิดเตาที่เยิ้มไปด้วยคราบมัน ให้ถอดออกมาแล้วทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานหรือน้ำสบู่ผสมน้ำอุ่น เพียงแต่ต้องตรวจสอบก่อนนะคะว่า น้ำยาล้างจานหรือสบู่ที่ใช้ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนียอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นปุ่มเตาแก๊สของเราอาจด่างดำได้ 4. ปล่องดูดควันต้องสะอาดด้วย สำหรับห้องครัวที่ติดตั้งปล่องดูดควันไว้ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานไปเช็ดทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกปล่องดูดควันให้หมดจด แล้วต่อไปก็ควรถอดฟิลเตอร์ปล่องดูดควันมาล้างด้วยน้ำยางล้างจานเป็นประจำทุกเดือน 5.
ขจัดคราบอ่างล้างจาน ผสมน้ำอุ่นจัดกับน้ำยาล้างจานแล้วใช้ฟองน้ำชุบทำความสะอาดให้ทั่วบริเวณอ่างล้างจาน และต้มน้ำผสมน้ำยาล้างจานพร้อมทั้งน้ำส้มสายชูเล็กน้อย รอจนน้ำเดือดจัดจึงนำไปเทลงท่อน้ำทิ้งของอ่างล้างจานทันที เพื่อกำจัดทุกสิ่งอุดตันและคราบมันที่ตกค้าง 12. จัดการคราบน้ำด่างเป็นรอย คราบน้ำสีขาวที่ปรากฏอยู่บนก๊อกน้ำสามารถกำจัดได้ง่าย ๆ ด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชูอย่างละครึ่ง จากนั้นนำผ้าขนหนูมาชุบก่อนนำไปเช็ดก๊อกน้ำให้ทั่ว เสร็จแล้วเช็ดอีกครั้งด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด 13. ทำความสะอาดเครื่องครัว เครื่องครัวอย่างไมโครเวฟและเครื่องปั่น รวมทั้งเครื่องครัวชนิดอื่น ๆ ควรนำออกมาทำความสะอาดด้วย โดยทางที่ดีให้ทำความสะอาดตามคำแนะนำจากคู่มือการใช้งาน ส่วนไมโครเวฟสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ ด้วยการบีบน้ำมะนาวผสมน้ำเปล่า นำไปอุ่นในไมโครเวฟด้วยอุณหภูมิสูงนาน 1 นาที จากนั้นใช้ฟองน้ำเช็ดคราบเปื้อนให้หมดจด 14. ปัด กวาด เช็ด ถู เมื่อเคลียร์องค์ประกอบอื่น ๆ ในห้องครัวเกือบครบแล้ว คราวนี้ได้เวลามาจัดการทำความสะอาดพื้นที่โดยรวม โดยเริ่มแรกให้ปัดฝุ่นทุกพื้นที่ เน้นตามมู่ลี่ด้วย จากนั้นจึงค่อยกวาดฝุ่นให้สะอาดหรือจะดูดฝุ่นแทนก็ได้ ปิดท้ายด้วยการใช้ไม้ม็อบถูพื้นเป็นอันเรียบร้อย 15.
สื่อการสอนการงานอาชีพ ป 5 vdo การทำความสะอาดห้องครัว - YouTube
ระบบ I Smart Mg Zs, 2024