นิ้วล็อก อาการปวดบริเวณนิ้วจนเหยียดงอไม่ได้ ซึ่งเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน และสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย จึงถือว่าเป็นภัยใกล้ตัว โดยเฉพาะในยุคดิจิตอลที่คนติดสมาร์ตโฟนอย่างทุกวันนี้ นิ้วล็อกทำไงดี? หลายคนมีอาการนิ้วล็อกเกิดกับตัวเองอย่างไม่คาดคิด แต่หากคุณเป็นคนที่ใช้กล้ามเนื้อบริเวณนิ้วมือมากเกินปกติ เช่น หิ้วของหนักเป็นเวลานาน ๆ ทำกิจกรรมที่ต้องถือหรือจับสิ่งของต่อเนื่องเป็นชั่วโมง ๆ หรือแม้แต่การเล่นสมาร์ตโฟนอย่างหนักหน่วง อาการนิ้วล็อกหรือเจ็บจนเหยียดงอนิ้วไม่ได้ก็จะสร้างความเจ็บปวดให้กับคุณอย่างที่เห็น ทว่านิ้วล็อกไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงแต่อย่างใด แต่เป็นแค่อาการที่สร้างความเจ็บปวดและเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งในวันนี้เราก็มีวิธีนวดรักษานิ้วล็อกด้วยตัวเองมาให้ลองทำตามด้วยค่ะ ว่าแล้วก็ไปดูวิธีรักษานิ้วล็อกด้วยตัวเองกันเลย 1.
จุดกลางระหว่างคิ้ว ใช้ปลายนิ้วชี้หรือนิ้วกลางกด 3-5 ครั้ง 2. จุดใต้หัวคิ้ว ใช้ปลายนิ้วชี้หรือนิ้วกลางกด 3-5 ครั้ง 3. จุดขอบกระดูกท้ายทอย จุดกลาง ใช้นิ้วหัวแม่มือ กด 3-5 ครั้ง จุด 2 จุดด้านข้าง ใช้วิธีประสานมือบริเวณท้ายทอย แล้วใช้หัวแม่มือทั้งสองกดจุด 2 จุดพร้อม ๆ กัน 3-5 ครั้ง 4. บริเวณต้นคอ ประสานมือบริเวณท้ายทอย ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้ง 2 ข้างกดตามแนว 2 ข้างของกระดูกต้นคอ โดยกดไล่จากตีนผมลงมาถึงบริเวณบ่า 3-5 ครั้ง 5. บริเวณบ่า ใช้ปลายนิ้วมือขวาบีบไหล่ซ้ายไล่จากบ่าเข้าหาท้ายทอย 6. บริเวณบ่าด้านหน้า ใช้นิ้วหัวแม่มือขวากดจุดใต้กระดูกไหปลาร้า จุดต้นแขน และจุดเหนือรักแร้ของบ่าซ้าย ใช้นิ้วหัวแม่มือซ้ายกดจุดเดียวกันที่บ่าขวา ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง 7. บริเวณบ่าด้านหลัง ใช้นิ้วที่ถนัดของมือขวาอ้อมไปกดจุดบนและจุดกลางของกระดูกสะบัก และจุดรักแร้ด้านหลังของบ่าซ้าย ใช้นิ้วที่ถนัดของมือซ้ายกดจุดเดียวกันที่บ่าขวา ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง นอกจากนั้นยังมี 4 เคล็ดลับสำหรับการนวด ดังนี้ 1. การกด ให้ใช้ปลายนิ้วที่ถนัด ได้แก่ นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้หรือนิ้วกลาง 2. การนวด จะใช้การกดและการปล่อยเป็นส่วนใหญ่ โดยใช้เวลากดแต่ละครั้งประมาณ 10 วินาที และใช้เวลาปล่อยนานกว่าเวลากด 3.
ชุบกับชิ้น "ขนมปังแผ่น" ที่ตัดเตรียมไว้ให้ชุ่ม พอกบริเวณข้อนิ้วที่ล็อก ใช้ผ้าพันไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแกะออก ทำวันละครั้งทุกวันตอนไหนก็ได้ และทำเรื่อยๆ จะช่วยละลายพังผืดที่หุ้มข้อนิ้วกับหินปูนที่เกาะตามข้อให้หมดไป ทำให้อาการนิ้วล็อกหายได้ สูตรดังกล่าวมีผู้นำไปทดลองแล้วได้ผลดีเกินคาด เพียงแต่ "น้ำส้มสายชูหมัก" ชนิด 5% ของ อสร. จะหาซื้อได้ยากหน่อยเท่านั้นเอง ครับ หนังสือ "สมุนไพรไม้ดอกไม้ประดับหายาก" เล่มที่ 5 ของ "นายเกษตร" พิมพ์สี่สีทั้งเล่ม พิมพ์จำนวนจำกัดหมดแล้วหมดเลย เนื้อหาในเล่มไม่ซ้ำกับทุกเล่มที่ผ่านมา ไม่ได้วางขายที่ไหน ราคาเล่มละ 600 บาท บวกค่าส่งกลับเล่มละ 30 บาท ส่งธนาณัติซื้อสั่งจ่าย "คุณนงลักษณ์ ศรีอัชรานนท์" ตู้ปณ. 48 ปณ. สามแยกลาดพร้าว กทม.
การกดให้ค่อย ๆ เพิ่มแรงทีละน้อย และเวลาปล่อยให้ค่อย ๆ ปล่อย 4. แต่ละจุดควรนวดซ้ำประมาณ 3-5 ครั้ง รู้ถึงประโยชน์ของการนวด จุดนวดสำคัญ และเคล็ดลับการนวด รวมถึงการเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับการนวดแล้ว ลองลงมือนวดกันได้เลย จะได้บรรเทาอาการเหนื่อยล้า แล้วเติมพลังในการทำงานต่อไป
0–2275–2692 ครับ.
ระยะแรก มีอาการปวดเป็นอาการหลัก โดยจะมีอาการปวดบริเวณโคนนิ้วมือ และจะมีอาการปวดมากขึ้น ถ้าเอานิ้วกดบริเวณฐานนิ้วมือด้านหน้า แต่ยังไม่มีอาการติดสะดุด 2. ระยะที่สอง มีอาการสะดุด (triggering) เป็นอาการหลัก และอาการปวดก็มักจะเพิ่มมากขึ้นด้วย เวลาขยับนิ้ว งอ และเหยียดนิ้ว จะมีการสะดุดจนรู้สึกได้ 3. ระยะที่สาม มีอาการติดล็อคเป็นอาการหลัก โดยเมื่องอนิ้วลงไปแล้ว จะติดล็อคจนไม่สามารถเหยียดนิ้วออกเองได้ ต้องเอามืออีกข้างมาช่วยแกะ หรืออาจมีอาการมากขึ้นจนไม่สามารถงอนิ้วลงได้เอง 4. ระยะที่สี่ มีการอักเสบบวมมาก จนนิ้วบวมติดอยู่ในท่างอเล็กน้อย ไม่สามารถเหยียดให้ตรงได้ ถ้าใช้มือมาช่วยเหยียดจะปวดมาก วิธีป้องกัน "โรคนิ้วล็อค" 1. ไม่หิ้วของหนัก เช่น ถุงพลาสติก ตะกร้า ถังน้ำ ถ้าจำเป็นต้องหิ้ว ควรใช้ผ้าขนหนูรองและหิ้วให้น้ำหนักตกที่ฝ่ามือ แทนที่จะให้น้ำหนักตกที่ข้อนิ้วมือ หรือใช้วิธีการอุ้มประคองช่วยลดการรับน้ำหนักที่นิ้วมือได้ 2. ไม่ควรบิดหรือซักผ้าด้วยมือเปล่าจำนวนมากๆ และไม่ควรบิดผ้าให้แห้งสนิท เพราะจะยึดปลอกหุ้มเอ็นจนคราก และเป็นจุดเริ่มต้นของโรคนิ้วล็อค 3. นักกอล์ฟที่ต้องตีแรง ตีไกล ควรใส่ถุงมือ หรือใช้ผ้าสักหลาดหุ้มด้ามจับให้หนาและนุ่มขึ้น เพื่อลดแรงปะทะ และไม่ควรไดร์กอล์ฟต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ 4.
เวลาทำงานที่ต้องอาศัยอุปกรณ์ช่าง ควรระวังการกำหรือบดเครื่องมือทุ่นแรง เช่น ไขควง เลื่อย ค้อน ฯลฯ ควรใส่ถุงมือหรือห่อหุ้มด้ามจับให้ใหญ่และนุ่มขึ้น 5. ชาวสวนควรระวังเรื่องการตัดกิ่งไม้ด้วยกรรไกร หรืออื่นๆ ที่ใช้แรงมือควรใส่ถุงมือเพื่อลดการบาดเจ็บของปลอกเอ็นกับเส้นเอ็น และควรใช้สายยางรดน้ำต้นไม้แทนการหิ้วถังน้ำ 6. คนที่ยกของหนักๆ เป็นประจำ เช่นคนส่งน้ำขวด ถังแก๊ส แม่ครัวพ่อครัว ควรหลีกเลี่ยงการยกมือเปล่า ควรมีผ้านุ่มๆ มารองจับขณะยก และใช้เครื่องทุ่นแรง เช่น รถเข็น รถลาก 7. หากจำเป็นต้องทำงานที่ต้องใช้มือกำ หยิบ บีบ เครื่องมือเป็นเวลานานๆ ควรใช้เครื่องทุ่นแรง เช่น ใช้ผ้าห่อที่จับให้หนานุ่ม เช่น ใช้ผ้าห่อด้ามจับตะหลิวในอาชีพแม่ครัวพ่อครัว 8. งานบางอย่างต้องใช้เวลาทำงานนานต่อเนื่อง ทำให้มือเมื่อยล้าหรือระบม ควรพักมือเป็นระยะๆ เช่นทำ 45 นาที ควรจะพักมือสัก 10 นาที สำหรับวิธีการรักษา "โรคนิ้วล็อค" ประกอบไปด้วย... 1. การใช้ยารับประทาน เพื่อลดการอักเสบ ลดบวม และลดอาการปวด ร่วมกับพักการใช้มือ 2. การใช้วิธีทางกายภาพบำบัด ได้แก่ การใช้เครื่องดามนิ้วมือ การนวดเบาๆ การใช้ความร้อนประคบ และการออกกำลังกายเหยียดนิ้ว โดยการรักษาด้วยยาและกายภาพบำบัด อาจใช้ร่วมกันได้ และมักใช้ได้ผลดีเมื่อมีอาการของโรคในระยะแรก และระยะที่สอง 3.
การฉีดยาสเตียรอยด์เฉพาะที่ เพื่อลดการอักเสบ ลดปวดและลดบวม เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างมาก ส่วนมากมักจะหายเจ็บ บางรายอาการติดสะดุดจะดีขึ้น แต่การฉีดยามักถือว่าเป็นการรักษาแบบชั่วคราว และข้อจำกัดก็คือ ไม่ควรฉีดยาเกิด 2 หรือ 3 ครั้ง ต่อ 1 นิ้วที่เป็นโรค การรักษาโดยการฉีดยานี้สามารถใช้ได้กับอาการของโรคตั้งแต่ระยะแรกจนถึงระยะท้าย 4.
ระบบ I Smart Mg Zs, 2024