สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ซื้อ และคู่สมรส (ถ้ามี) และเอกสารการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) 7. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ หรือคู่สมรส (ถ้ามี) 7. หนังสือยินยอมคู่สมรส (ถ้ามี) 7. สำเนาใบทะเบียนสมรส (ถ้า มี) 7. หนังสือมอบอำนาจ (กรณีมอบให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) 7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ 8. โดยสำหรับบุคคลที่ซื้อด้วยเงินสดบ้านก็จะตกเป็นชื่อของเจ้าของบ้านโดยทันทีเรียกว่า มีกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ ส่วนบุคคลท่านใดที่ยื่นกู้ก็จะมีสภาพเป็นลูกหนี้ของธนาคาร ท่านจะต้องทำการผ่อนชำระหนี้จนกว่าจะหมดหนี้ เป็นอันว่ามีกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์นั้นเอง เป็นยังกันบ้างสำหรับบทความที่เราได้นำมาฝากท่านผู้อ่านกัน ส่วนท่านไหนที่ยังคิดว่าจะซื้อบ้านจัดสรรหรือสร้างบ้าน อย่างไหนดีกว่ากัน ท่านสามารถอ่านต่อได้ที่ ซื้อที่ดิน ปลูกบ้าน กับ บ้านจัดสรร ข้อดีข้อเสียต่างกันยังไง สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เราหามาเสริฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิ๊ก
ในการเตรียมตัวสำหรับสร้างบ้าน สิ่งแรกที่เราจะต้องมาคำนึงถึง คือ งบประมาณ แน่นอนว่าในการเริ่มต้นปลูกบ้านแต่ละหลัง แต่ละขั้นตอน ย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น วันนี้เรามีหลักการมานำเสนอว่า ท่านจะต้องเตรียมตัวอย่างไรและคำนึงถึงอะไรบ้าง 1. งบประมาณในการรื้อถอนบ้าน กรณีมีบ้านเก่าตั้งอยู่ ก่อนที่เราจะตกลงจ้างผู้รับเหมาในการรื้อถอนเราควรที่จะคุยถึงรายละเอียดว่ามีเนื้องาน มาตรการป้องกันความเดือดร้อนและอันตรายต่างๆอย่างไรบ้าง และต้องระวังผู้รับเหมารื้อถอนที่เสนองานในราคาถูกๆ เพราะเวลาทำงานจริง อาจจะไม่มีทั้งความรับผิดชอบ และความเรียบร้อย หากต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการสร้างบ้าน คลิ๊ก 2. งบประมาณในการถมดิน ถ้าจำเป็นต้องถมดิน ขอแนะนำว่าการว่าจ้างแบบเหมาจ่ายเป็นวิธีที่สะดวกและเหมาะสมที่สุด เพราะเราจะสามารถตรวจสอบงานได้ง่ายและค่าใช้จ่ายจะไม่บานปลาย สำหรับดินที่เหมาะที่จะนำมาใช้ถม ควรจะเป็นดินที่มาจากท้องนา ในกรณีที่ดินที่จะถม มีบ่อหรือหลุมลึก ควรใช้ทรายถมลงไปด้วย เพื่อป้องกันการทรุดตัว และควรที่จะมีการบดอัดทับไปด้วยเพื่อความแน่นของดินและป้องกันการทรุดตัวในวันข้างหน้า แนะนำ ในการถมดินควรหลีกเลี่ยงการถมดินหน้าฝน เพราะช่วงหน้าฝนจะทำงานลำบาก และหาดินที่มาถมยาก และไม่สามารถบดอัดดินให้แน่นได้ 3.
พ. 30 เป็นต้น – รูปถ่ายกิจการ 4-5 ภาพพร้อมแผนที่ตั้งโดยสังเขป เอกสารหลักประกัน 5. สำเนาสัญญาการซื้อ-ขาย/สัญญาวางมัดจำ/สัญญาเช่าซื้อการเคหะ และหนังสือรับรองยอดคงเหลือ (กรณีซื้อ) 5. สำเนาสัญญากู้เงิน และสำเนาสัญญาจำนองกับสถาบันการเงินเดิม (กรณีไถ่ถอนจำนอง) 5. ใบเสร็จการผ่อนชำระหรือบัญชีหมุนเวียน ย้อนหลัง 1 หรือ 2 ปี (กรณีไถ่ถอน) 5. หลักฐานการเป็นเจ้าของอาคาร 5. 5. สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดินฉบับกรมที่ดิน 5. 6. สำเนาโฉนดที่ดิน/นส. 3ก/หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด/อช. 2 ทุกหน้า 5. 7. ใบอนุญาตปลูกสร้าง/ต่อเติม 5. 8. แบบแปลน 5. 9. ใบประมาณการปลูกสร้าง/สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง ** หมายเหตุ: ข้อมูลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับทางธนาคารอีกครั้งก่อนยื่นเอกสาร 6. เมื่อผ่านขั้นตอนการกู้บ้านแล้วในระหว่างนี้ก็จ้างวิศวะกรมาทำการตรวจรับบ้าน โดยแก้ไขจุดที่ยังไม่พอใจจนพอใจ อย่าโอนก่อนตรวจรับบ้าน หรือถ้าใครเงินน้อยก็ลอง ตรวจรับบ้านด้วยตัวเองได้ที่ วิธีตรวจรับบ้านด้วยตัวเอง แบบละเอียด รับรองจบเเน่นอนไม่มีค้างคา!!! 7. มาถึงขั้นตอนสุดท้ายของการซื้อบ้านนั้นคือการ โอนกรรมสิทธิ์ โดยผู้ซื้อ ผู้ขายและผู้ให้กู้จะไปเจอกันที่สำนักงานที่ดิน เพื่อโอนกรรมสิทธิ์ หรือบ้างโครงการสามารถที่จะทำเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์แทนผู้ซื้อให้เลย(ส่วนน้อย) โดยต้อง เตรียมเอกสารได้แก่ 7.
กรอกคำขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคารหรือรื้อถอนอาคาร (ข. 1) ขอรับได้ที่หน่วยงานราชการที่รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ 2. แบบแปลนแผนผัง จำนวน 5 ชุด 3. หนังสือรับรองว่าเป็นผู้ออกแบบ สถาปนิก และ วิศวกร พร้อมสำเนาใบอนุญาต 4. สำเนาโฉนดที่ดินที่จะก่อสร้าง 5. สำเนาบัตรประชาชน หรือทะเบียนบ้านเจ้าของอาคาร ในกรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียน จากนั้นนำเอกสารทั้งหมดไปยื่นต่อเทศบาลซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่ ภายใน 45 วัน ต้องได้รับแจ้งว่าได้รับอนุญาตหรือไม่ ถ้าไม่อนุญาตจะต้องแก้ไขอะไรบ้าง เมื่อแก้ไขแล้วก็ควรจะได้รับอนุญาต และเสียค่าธรรมเนียมตามกำหนดของทางราชการ การขอติดตั้งประปาชั่วคราว ผู้ขออนุญาตใช้น้ำประปาต้องนำหลักฐานมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ ดังนี้ 1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวที่ทางราชการออกให้ 2. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อผู้ขอใช้น้ำ 3. สำเนาทะเบียนบ้านที่ต้องการใช้น้ำประปา 4. สำเนาโฉนดที่ดินหรือใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารบ้านที่ขอใช้น้ำ หลังจากยื่นเอกสารสำนักงานการประปา จะส่งช่างไปทำการสำรวจในจุดที่ท่านขอใช้น้ำ เพื่อจัดทำแบบการติดตั้งประปาและจัดทำประมาณการค่าใช้จ่าย เมื่อสำนักงานการประปา สำรวจ ออกแบบแล้วจะส่งใบแจ้งราคาค่าติดตั้ง ไปให้ผู้ขอ โดยมีกำหนดระยะเวลาในการชำระเงิน ภายในกำหนด 60 วัน หลังจากชำระเงินค่าธรรมเนียมแล้ว สำนักงานการประปา จะได้ไปติดตั้งประปาให้ผู้ขอภายใน 2 – 5 วัน การขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราว นำหลักฐานมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ ดังนี้ 1.
เมื่อได้แบบบ้านแล้ว ต่อมาต้องขออนุญาติสร้างที่ เขตหรืออบต. ต้องขอติดต่อกับทาง เขตสำหรับ ต่างจังหวัดแจ้งที่ อบต. ประจำตำบล เพื่อที่จะเเจ้ง ทาง อบต. ว่า เราจะทำการสร้างบ้าน โดยนำใบ ลายเซ็น วิศวกร(โยธา)ส่วนถ้าขนาดบ้านเกิน 150 ตรม. ต้องให้สถาปนิกเซ็นรับลองแบบปบ้านให้เพิ่มเพื่อนำ ไปแสดงโดยราคาเซ็นจะอยู่ที่ประมาณ 10, 000 บาทบวกลบแล้วแต่ที่ โดยในส่วนนี้จะมี สำหรับลายเซ็น วิศวกร(โยธา) และ สถาปนิก 1. รายการคำนวนแบบบ้าน พร้อมลายเซ็นทุกหน้า 2. ค่าเซ็น แปลนบ้าน 3. หนังสือรับรอง วิศวกรรมควบคุม 1 ชุด (พร้อมสำเนาใบ กว) 4. หนังสือผู้ควบคุมงาน (แบบ น. 4) 1 ชุด (พร้อมสำเนาใบ กว) ด้านเจ้าของบ้าน 5. สำเนาโฉนดที่ดินพร้อมเซ็นรับรองทุกหน้า (เจ้าของ) 6. สำเนาบัตรประชาชน (ผู้ขออนุญาติ) 7. สำเนาบัตรประชาชน (ผู้เป็นเจ้าของที่ดิน) 8. สำเนาทะเบียนบ้าน (ผู้ขออนุญาติ) 9. สำเนาทะเบียนบ้าน (ผู้เป็นเจ้าของที่ดิน) 10. ใบรับรองที่ดิน (ให้ผู้ใหญ่บ้านเซ็น) 11. ใบมอบอำนาจการขออนุญาติสร้าง (ถ้าเจ้าของที่ดิน ไม่ได้ขอเอง) 4. เมื่อเขตหรือ อบต.
ยุคนี้มีหลายๆท่านที่สนใจอยากจะจับจองเป็นเจ้าของบ้านสักหลังไม่ว่าจะ ปลูกบ้าน เองจากที่ดินเปล่า หรือบ้างท่านจะเลือกซื้อจากโครงการที่หลายๆท่านให้ความสนใจ แต่ว่ายังไม่มีประสบการณ์เลย จะต้องทำอะไรยังไงบ้าง วันนี้เรามีความตอบมาฝาก เอาตั้งแต่เริ่มต้น ยันมีเข้าอยู่บ้านกันได้เลย 9 ขั้นตอนการ ปลูกบ้าน จากที่ดินเปล่า 1. สำหรับท่านใดที่มีที่ดินเปล่า สิ่งแรกที่ต้องทำคือให้ดูที่โฉนดที่ดินว่าเป็นชื่อที่ดินเป็นของเราหรือไม่ โดยสามารถเช็คได้ที่กรม ฯ ที่ดิน ประจำจังหวัดที่เราอาศัยอยู่นั้นๆ จากนั้น เราต้องเตรียมเงินไว้สำหรับในขั้นตอนการปลูกบ้านโดยท่านที่มีที่ดินแต่เงินไม่พออาจจะต้องทำเรื่องกู้บ้าน โดย สามารถอ่านเพิ่มได้ที่ อยากกู้ปลูกบ้านในฝันบนที่ดินเปล่า ต้องทำอย่างไร 2. จากนั้นหาแบบบ้านที่จะปลูก โดยคำนวนเเบบเผื่อไว้ โดยสามารถปรึษาผู้รับเหมา บริษัทรับสร้างบ้าน หรือจะลองหาข้อมูลหรือไอเดียการปลูกบ้านจากเหล่า คนที่นำมาแชร์ตามในลิงค์นี้เลย แบบบ้านต่างๆ หรือจะจ้างคนเขียนแบบบ้านโดยจะอยู่ที่ราคาตั้งแต่ 2000-6000 บาท โดยแบบบ้านนั้นสำคัญมากๆในแบบต้องมีรายละเอียดทั้งหมดว่า ความยาวเท่าไหร่ ติดแอร์ตรงไหน หน้าต่าง มีกี่บาน อยากมีปลั๊กไฟกี่จุด ในแปลนมีอธิบายการวางท่อน้ำทั้งบ้าน การวาง สายไฟทั้งบ้าน เรื่องแปลนบ้านนั้นสำคัญมากๆสำหรับคนที่ซื้อแบบบ้านต่างหาก 3.
สำเนาทะเบียนบ้านที่อยู่ปัจจุบัน 2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 3. สำเนาใบอนุญาตก่อสร้าง (ถ้ายังไม่ได้ให้ถ่ายใบคำขอมาแทน) 4. โฉนดที่ดินสถานที่ขอใช้ไฟ 5. หนังสือมอบอำนาจพร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท (กรณีผู้ขอไม่มาดำเนินการ) 6.
การจะสร้างบ้านหลังหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าของบ้านต้องศึกษาแบบบ้าน ฟังก์ชันการใช้งานที่ตนเองหรือผู้ที่ร่วมอยู่อาศัยในบ้านชื่นชอบ นั่นก็คือบุคคลในครอบครัวนั่นเอง และสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องมีคืองบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้าง นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นสำหรับการคิดที่จะสร้างบ้าน และขั้นตอนต่าง ๆ ของการก่อสร้างซึ่งต้องมีการประสานงาน สถาปนิก วิศวกร ผู้รับเหมาก่อสร้าง ธนาคาร หากต้องการขอกู้สินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้าน ตลอดจนติดต่อหน่วยงานราชการต่างๆ อบต. เขต หรือเทศบาล เพื่อยื่นขออนุญาตปลูกสร้างบ้าน ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร และต้องติดต่อการไฟฟ้า การประปา เพื่อใช้ในการก่อสร้าง ในบทความนี้จะกล่าวถึงการติดต่อหน่วยงานราชการ การยื่นขออนุญาตปลูกสร้างบ้าน การก่อสร้าง การดัดแปลง การรื้อถอน การเคลื่อนย้าย และการใช้สอยอาคาร ภายในเขตเทศบาลต้องได้รับอนุญาตจากเทศบาลเสียก่อน จึงจะดำเนินการได้ เพราะเทศบาลมีหน้าที่ควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ. ศ. 2522 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์แห่งความมั่นคง แข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกในการจราจร เพื่อประโยชน์ของผู้อยู่อาศัยในอาคาร เอกสารการขออนุญาตปลูกสร้าง 1.
เมื่อได้โครงการที่เราชอบแล้วก็หาทางติดต่อหาซื้อ กับทางโครงการบ้านหรือคนที่ลงประกาศขาย สำหรับคนที่มีเงินสดอยู่ในมือก็สามรถซื้อได้เลย 4. หาแบงค์กู้ โดยให้เรายื่นกู้ไปหลายๆแบงค์ โดยปกติระยะเวลาจะไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ก็ทราบผลแล้ว เลือกดอกที่ดีที่สุด โดยวิธียื่นกู้แบงค์ที่ ยังไงให้แบงก์อนุมัติ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. -ออมสิน"บอกเอง วิธีกู้ซื้อบ้าน – คอนโด ทำยังไงให้แบงก์อนุมัติ 5. เตรียมเอกสารทั่วไปในการทำเรื่องยื่นกู้ ได้แก้ เอกสารทั่วไป 5. 1. บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรข้าราชการ 5. 2. ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน 5. 3. สำเนาทะเบียนสมรส/หย่า/มรณะบัตร/ใบแจ้งความแยกกันอยู่ (ถ้ามี) 5. 4. ใบเปลี่ยนชื่อ หรือชื่อ-สกุล (ถ้ามี) เอกสารแสดงรายได้ (ธนาคาาร ธอส. ) 5. กรณีประกอบอาชีพประจำ – หนังสือรับรองเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือนแบบใช้สวัสดิการของหน่วยงาน – สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน – สมุดบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน 5. กรณีประกอบอาชีพอิสระ – รายการเดินบัญชีเงินฝาก 12 เดือน – หลักฐานการเงินอื่น ๆ 5. กรณีเจ้าของธุรกิจ: – สำเนาทะเบียนการค้าหรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท – รายชื่อผู้ถือหุ้น – รายการเดินบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน – สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี – หลักฐานการเสียภาษี เช่น ภ.
เมื่อบ้านใกล้เสร็จแล้วใครที่ไม่ได้ ขอทำเรื่องเลขที่บ้านครับก็ควรไปจัดการตรงนี้เพื่อที่เราจะได้ มิเตอร์น้ำ และมิเตอร์ไฟ มาใช้ในตอนสร้างบ้านเสร็จสนใครที่ขอแล้วก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยคะ 9. สุดท้ายเมื่อบ้านเสร็จแล้วก็อย่างลืมให้วิศวกรตรวจสอบบ้านครั้งสุดท้ายและถ้าใครงบเหลือจะ ฉีกยาฆ่าปลวกปิดท้ายก็ได้คะ จากนั้นท้ายสุดแล้วสำหรับชาวไทยก่อนเข้าไปอยู่บ้านก็อาจจะหาฤกษ์สำหรับทำบุญขึ้นบ้านใหม่ไว้ด้วยก็ดีคะ ส่วนใครไม่ทราบวิธีทำบุญขึ้นบ้านใหม่ก็สามารถกดอ่านได้ที่ ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2561 ตลอดทั้งปี ซื้อบ้านจากโครงการบ้านจัดสรร ต้องทำอะไรบ้าง 1. เริ่มแรกให้ เลือกโครงการ ที่เราจะเข้าไปอยู่ โดยแนะนำให้เน้นไปที่ซื้อเสียงของแบรนด์บ้านจัดสรรเป็นหลักโดยอันนี้สำคัญเป็นอันดับแรงมากกว่าราคา จากนั้นราคาควรจะสมเหตุสมผลด้วยไม่ควรถูกเกินไปและแพงเกินไปและควรจะเปรียบเทียบสเปกและราคาจากโครงการอื่นๆในละแวกใกล้เคียง จากนั้นระบบการรักษาความปลอดภัยของโครงการดีมากขนาดไหนบ้าง ดูทำเลการเดินทางควรสะดวกหรือไม่มีทางด่วนเข้าออกทำงานกลางเมืองได้สะดวก 2. การเลือกโครงการควรจะหาโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว เท่านั้นเพราะอย่างน้อยเราจะเสียเงินจ้างคนตรวจบ้านไม่กี่ครั้ง ไม่ต้องวางเงินจองหรือมัดจำและไม่อยากลุ้นเรื่องการก่อสร้างล่าช้า 3.
ระบบ I Smart Mg Zs, 2024