บ้านบัว อ. เมืองบุรีรัมย์ กับนายนพกรณ์ จริดรัมย์ อายุ 57 ปี จาก ต. กันทรารมย์ อ. กระสัง จ. บุรีรัมย์ นายนพกรณ์ บอกว่า ปัจจุบันตนประกอบอาชีพทำนา แต่ก่อนหน้านี้ตนเคยเป็นสมาชิก อบต., นายก อบต. กันทรารมย์ ต. บุรีรัมย์ รวมถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เมื่อเลิกเล่นการเมืองท้องถิ่นแล้ว ตนยังเป็นอาสาสมัครของกรมคุมประพฤติ และ อส. สำรองด้วย ส่วนสาเหตุที่ตนมาสมัครเป็นสมาชิก อส. ในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าตนจะอายุมากถึง 57 ปีแล้วก็ตาม ซึ่งถือเป็นอายุที่มากและอยู่ในวัยใกล้ปลดเกษียณ แต่ตนยังมีไฟอยู่ และมีความพร้อมเต็มที่อยากจะทำงานช่วยเหลือสังคม จึงมาสมัครเป็นสมาชิก อส. ในครั้งนี้ เพื่อต้องการทำงานช่วยเหลือทางราชการ นายนพกรณ์ บอกด้วยว่า การสมัครเข้ารับทำงานต่างๆทั้งเอกชนและราชการ ส่วนใหญ่จะเปิดรับสมัครอายุไม่เกิน 30 หรือ 35 ปี แต่สมาชิก อส. เปิดรับบุคคลตั้งแต่อายุระหว่าง 17-60 ปี เมื่อทางราชการเปิดโอกาสให้แล้ว ประกอบกับที่ตนยังมีความพร้อมในการทำงาน จึงมาลองสมัครดังกล่าว ซึ่งการทดสอบในรอบแรกตนผ่านการทดสอบภาคพลศึกษา และได้ผ่านเข้าทำการสอบข้อเขียนกับสอบสัมภาษณ์ในลำดับต่อไป ซึ่งตนรู้สึกดีใจมาก อีกอย่างตนอยากจะทำให้เด็กเยาวชนรุ่นหลังได้ดูว่า การทำงานในอาชีพใดก็ตาม อายุเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น อยู่ที่ตัวของเราเองว่าพร้อมทำงานไหม สภาพร่างกายและจิตใจพร้อมหรือไม่ ด้าน นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จ.
บุรีรัมย์ ได้เปิดรับสมัครบุคคลพลเรือนชายทั่วไป อายุระหว่าง 17-60 ปี สมัครเข้ารับการบรรจุและสั่งใช้เป็นสมาชิก อส. ในส่วนของกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดบุรีรัมย์ บรรจุครั้งแรกจำนวน 18 อัตรา และจะทำการขึ้นบัญชีไว้ 2 ปี สำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบตามที่กำหนดไว้คือ 60% โดยมีผู้สนใจสมัครทั้งสิ้น 213 คน ซึ่งได้ทำการทดสอบภาคพลศึกษาก่อน คือการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ในท่าดันพื้น ซิทอัพ และวิ่งอีก 2 กิโลเมตร ซึ่งแบ่งตามช่วงเกณฑ์อายุของผู้สมัคร โดยในรอบแรกมีผู้ผ่านการทดสอบเพียง 120 คนเท่านั้น ที่จะได้ทำการทดสอบในรอบข้อเขียน และรอบสอบสัมภาษณ์ตามลำดับต่อไป รองผู้ว่าฯบุรีรัมย์ กล่าวด้วยว่า การสมัครสอบเข้าเป็นสมาชิก อส. ครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก เพราะตำแหน่ง อส. เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ มั่นคง มีเงินเดือน และมีสวัสดิการไม่ต่างจากข้าราชการทั่วไป ซึ่งทางจังหวัดฯได้ดำเนินการจัดการสอบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ ยุติธรรม และสุจริตโปร่งใส พร้อมทำการตรวจปัสสาวะผู้ที่ผ่านการทดสอบในรอบแรกทุกนาย เพื่อหาสารเสพติดในร่างกายด้วย เพื่อที่คัดเลือกบุคคลเข้ามาเป็นสมาชิก อส. เข้ามาเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่ต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย นายดำรงชัย กล่าวว่า สมาชิก อส.
ตามหัวข้อครับ อาสาสมัครรักษาดินแดน หรือ อสคืออะไร มีสวัสดิการอะไรบางเหมือนตำรวจทหารมั้ย และความก้าวหน้าสามารถไปได้ถึงขั้นไหน พอดีเพิ่งเพื่อนชวนไปสมัครเพิ่งปลดทหารมา ไม่รู้จริงๆครับอย่าด่าผมน่ะขอคนที่รู้มาให้คำตอบด้วยครับ ขอบคุณทุกคำตอบล่วงหน้าครับ แสดงความคิดเห็น
อส. นักรบประชาชน คือ ประชาชนที่อาสาเข้ามาทำหน้าที่ดูแลรักษาด้านความมั่นคงภายใน เป็นกำลังสำคัญของฝ่ายปกครองในการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ทุกวันในการทำหน้าที่ของพวกเขานอกจากความมั่นคง... เหนืออื่นใดคือความปลอดภัยของประชาชน เสมือนญาติพี่น้องที่ต้องดูแลกันและกันของเหล่าสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนทุกนาย สมดังปณิธานที่กล่าว "ปวงข้า อส. ขอตั้งสัจจา จะปกป้องพาราจนสิ้นใจ" สามารถแบ่งหน้าที่ของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนได้ 2 บทบาท คือ (1) กระทําตามคําสั่งของผู้บังคับบัญชาที่สั่งการโดยชอบ (2) ปฏิบัติตามหน้ที่ ระเบียบ ข้อบังคับ และวินัยของกองอาสารักษาดินแดน โดยกองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน มีการสั่งใช้กำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หรือ อส. จำนวนทั้งสิ้น 25, 925 นาย ทั่วประเทศ ในพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาครวมทั้งสิ้น 971 กองร้อย โดยแบ่งสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนได้เป็น 3 ประเภท คือ (1) ประเภทสํารอง คือสมาชิกที่ยังไม่ได้เข้ารับการฝึกหัดและอบรม (2) ประเภทประจํากอง คือสมาชิกที่ได้รับการฝึกหัดและอบรม และบรรจุอยู่ในอัตรากําลัง (3) ประเภทกองหนุน คือสมาชิกที่ได้ปลดออกจากประจํากอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หรือ อส. มีบทบาทภารกิจหน้าที่ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขร่วมกับฝ่ายปกครอง ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มีชั้นยศ มีสิทธิ ค่าตอบแทน และสวัสดิการต่างๆ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้บังคับบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ในสังคมปัจจุบัน แม้ไม่มีศึกสงครามจากภายนอกประเทศ หากแต่ยังมีภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ ที่สร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้แก่ผู้คนในสังคมอยู่เสมอ การทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครอง และช่วยเหลือประชาชนจึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องดูแลกันและกันเพื่อให้สังคมสงบสุข
เสนอ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป ล่าสุด ราชกิจจานุเบกษา 10 ก. ได้เผยแพร่ในประกาศ มีใจความว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว และเงินช่วยเหลือสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย พ. 2548 เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 ที่อนุมัติในหลักการให้ปรับขยายขั้นค่าตอบแทนของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 21 (2) แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ. 2502 กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวและเงินช่วยเหลือสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 8) พ. 2561" ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ. 2560 เป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 10 แห่งระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวและเงินช่วยเหลือสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย พ. 2548 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 10 การเพิ่มเงินค่าตอบแทนสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนนอกเหนือจากที่กำหนดให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง" ข้อ 4 ให้ยกเลิกบัญชีเงินค่าตอบแทนสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทยท้ายระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวและเงินช่วยเหลือสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย พ.
ระบบ I Smart Mg Zs, 2024