6 กรณีผู้ขอรับการประเมินได้พัฒนาแล้ว และมีผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ที่ ก. กำหนด ถือว่าไม่ผ่านการประเมิน ให้เสนอ อ. เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาไม่อนุมัติและให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแจ้งผลการพิจารณาให้สถานศึกษา เพื่อแจ้งผู้ขอรับการประเมินทราบ 4. 7 กรณีผลการประเมินทั้ง 3 ด้าน ผ่านเกณฑ์ที่ ก. กำหนด ให้เสนอ อ. เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาอนุมัติ 5. การแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะครูชำนาญการ กรณี อ. เขตพื้นที่การศึกษามีมติอนุมัติ ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 สั่งแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะครูชำนาญการ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ. 2 สำหรับผู้ที่รับเงินเดือนต่ำกว่าขั้นต่ำของอันดับ คศ. 2 จะแต่งตั้งได้เมื่อรับเงินเดือนต่ำกว่าขั้นต่ำของอันดับ คศ. 2 ไม่เกิน 1 ขั้น และส่งสำเนาคำสั่ง จำนวน 1 ชุดให้สำนักงาน ก. ภายในเวลา 7 วัน นับแต่วันออกคำสั่ง 6. ให้ดำเนินการประเมินให้แล้วเสร็จภายในรอบระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่สำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้รับคำ ขอและเอกสารผลการปฏิบัติงาน(ด้านที่ 3) หากดำเนินการไม่แล้วเสร็จให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแจ้งสถานศึกษาเพื่อแจ้งผู้ขอรับการประเมินทราบ และเร่งรัดการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สรุปการยื่นคำขอ วิทยฐานะชำนาญการ สายงานการสอน 1.
ณ วันนี้(14 ธันวาคม 2556) จะมีครูผู้ดูแลเด็ก จำนวนหลายพันคน ได้รับการบรรจุแต่งตั้งฯ จาก"ครูผู้ช่วย"(ครูผู้ดูแลเด็กอันดับครูผู้ช่วย) ให้ดำรงตำแหน่ง "ครู"(ครูผู้ดูแลเด็กอันดับ คศ. 1) และ... หากนับต่อเนื่องไปอีก 4 ปี ก็จะมีครูผู้ดูแลเด็กจำนวนหนึ่งที่จบปริญญาโททางการศึกษา ได้รับการเลื่อนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง"ครูผู้ดูแลเด็กอันดับ คศ. 2" ได้รับเงินวิทยฐานะเดือนละ 3, 500 บาท ส่วนท่านที่จบปริญญาตรี จะต้องใช้เวลา 6 ปี จึงจะ ได้รับการเลื่อนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง"ครูผู้ดูแลเด็กอันดับ คศ. 2" ได้รับเงินวิทยฐานะเดือนละ 3, 500 บาท เช่นกัน การที่จะได้รับการเลื่อนและแต่งตั้งฯให้ได้รับเงินวิทยฐานะ 3, 500 บาท นั้น ไม่ง่าย... และก็คงไม่ยากเกินกว่าที่ท่านจะทำได้!?? ซึ่งท่านจะต้องยื่นคำขอและเตรียมผลงานย้อนหลัง 2 ปี ติดต่อกัน(นับถึงวันที่ยื่นคำขอ) ท่านจะรอ... อีก 2 ปี หรือ 4 ปี ค่อยทำ หรือจะเริ่มวันนี้ก็อยู่ที่ท่านจะเลือก หากท่านคิดที่จะทำก็ควรศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการฯ... หลักเกณฑ์และวิธีการ ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะครูชำนาญการ 1. ผู้ขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ ต้องมีคุณสมบัติ ต่อไปนี้ 1.
เกณฑ์การตัดสิน ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินต้องได้คะแนนแต่ละด้าน ดังนี้ 5. 1 ด้านที่ 1 ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ต้องได้คะแนน จากกรรมการทั้ง 3 คน เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 65 5. 2 ด้านที่ 2 ด้านความรู้ความสามารถ ต้องได้คะแนนจากกรรมการทั้ง 3 คน เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 65 5. 3 ด้านที่ 3 ด้านผลการปฏิบัติงาน ต้องได้คะแนนจากกรรมการแต่ละคน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 65 กรณีคณะกรรมการประเมินด้านที่ 1 ด้านที่ 2 และด้านที่ 3 มีความเห็นว่า ผลการประเมินอยู่ในวิสัยที่สามารถพัฒนาให้ผ่านเกณฑ์ได้ ให้พัฒนาได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 3 เดือน 6. การพิจารณาอนุมัติผลการประเมินเพื่อให้มีวิทยฐานะครูชำนาญการ ให้ อ. ก. เขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้อนุมัติ มีผลไม่ก่อนวันที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้รับคำขอและ เอกสารครบถ้วนสมบูรณ์ กรณีที่มีการพัฒนาไม่ว่าด้านใดก็ตาม ให้อนุมัติได้ไม่ก่อนวันที่สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา ได้รับหนังสือที่ส่งรายละเอียดในการพัฒนาครบถ้วนสมบูรณ์ครั้งหลังสุด 7. เมื่อ อ. เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาผลการประเมิน และมีมติเป็นประการใดแล้ว ให้ถือเป็นอันสิ้นสุด 8. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้หมายความรวมถึง ส่วนราชการด้วย และ อ.
หนังสือนำส่ง 2. สำเนา ก. 7(ทะเบียนประวัติข้าราชการ) จำนวน 1 ฉบับ 3. แบบ ก. 1, ก. 2 และ ก. 3 (จำนวน 4 ชุด ส่ง 1 ชุด อีก 3 ชุดเก็บไว้ที่ศูนย์ฯเพื่อให้กรรมกำรประเมิน) การประเมิน- แต่งตั้งคณะกรรมการ 1 คณะ ประเมินทั้ง 3 ด้าน ด้านที่ 1 ประเมินตามแบบ ก. 4 สรุปลง แบบ ก. 5 ด้านที่ 2 ประเมินตามแบบ ก. 6/1. 1 นำมาลงแบบ ก. 7/1 สรุปลง แบบ ก. 8/1 (เฉพาะสาขาปฐมวัย ประเมินตามแบบ ก. 2 นำมาลงแบบ ก. 8/1) ด้้านที่ 3 ประเมินตามแบบ ก. 14/1. 1 (เฉพาะสำขำปฐมวัย ประเมินตำมแบบ ก. 2) แล้วนำผลด้านที่ 1 ด้านที่ 2 และด้านที่ 3 มาสรุปลงในแบบ ก. 15/1 แบบประเมินที่ต้องนำส่งฯคือ แบบ ก. 5, แบบ ก. 8/1 และ แบบ ก. 15/1 นอกจากนี้ให้เก็บไว้เป็น หลักฐานที่ศูนย์ฯ
การประเมินด้านที่ 1 ด้านที่ 2 และด้านที่ 3 4. 1 กรณีผลการประเมินด้านใดไม่ผ่านเกณฑ์ และคณะกรรมการมีความเห็นว่าผลการประเมินอยู่ในวิสัยที่สามารถพัฒนาให้ผ่านเกณฑ์ได้ ให้คณะกรรมการประเมินแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อแจ้งสถานศึกษาภายในเวลา 15 วัน นับแต่วันที่คณะกรรมการประเมินแล้วเสร็จ ให้ผู้ขอรับการประเมินพัฒนาตามข้อสังเกตของคณะกรรมการภายในเวลา 3 เดือน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง 4. 2 เมื่อผู้ขอรับการประเมินได้พัฒนาแล้ว ให้สถานศึกษาส่งหนังสือแจ้งรายละเอียดที่พัฒนาถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อเสนอคณะกรรมการชุดเดิมตรวจและประเมินต่อไป 4. 3 กรณีที่คณะกรรมการประเมินพิจารณารายละเอียดที่พัฒนาแล้วเห็นควรให้มีการพัฒนาเพิ่มเติม ให้แจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อแจ้งสถานศึกษาภายในเวลา 15 วัน นับแต่วันที่คณะกรรมการประเมินแล้วเสร็จ ให้ผู้ขอรับการประเมินพัฒนาตามข้อสังเกตของคณะกรรมการภายในเวลา 3 เดือน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง 4. 4 กรณีที่กรรมการประเมินคนเดิมไม่สามารถประเมินได้ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ให้ อ. เขตพื้นที่การศึกษาตั้งกรรมการแทนได้ตามที่กำหนดในวิธีการข้อ 3 4. 5 กรณีผู้ขอรับการประเมินไม่ส่งรายละเอียดการพัฒนาตามข้อสังเกตภายในเวลาที่กำหนด หรือส่งเกินเวลาที่กำหนด ถือว่าสละสิทธิ์ 4.
ให้การรับรองการประมวลความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาวิชาการและวิชาชีพและการนำไปใช้ ในการจัดการเรียนการสอน และการให้บริการทางวิชาการและวิชาชีพ ด้านที่ 3 ด้านผลการปฏิบัติงาน พิจารณาจาก ผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายงานการสังเคราะห์ผลการแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียน ผลการประเมินและหรือการทดสอบของวิชาที่สอนในระดับเขตหรือระดับประเทศ และ ผลการพัฒนาผู้เรียนด้านอื่นๆ โดยคำนึงถึงปริมาณ คุณภาพและสภาพของงานด้วย 3. การประเมินด้านที่ 1 และด้านที่ 2 ให้คณะกรรมการประเมินจากเอกสารหลักฐาน รวมทั้งการปฏิบัติงานจริง ณ สถานศึกษา ส่วนด้านที่ 3 ให้ประเมินจากเอกสารหลักฐาน ที่ผู้ขอรับการประเมินเสนอ โดยอาจประเมินจากการปฏิบัติงานจริง ณ สถานศึกษา หรืออาจให้ ผู้ขอรับการประเมินนำเสนอ และตอบข้อซักถามด้วยก็ได้ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการบันทึกข้อสังเกตเกี่ยวกับจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาในเรื่อง ที่ประเมินของผู้ขอรับการประเมินไว้ในแบบประเมินด้วย 4. การประเมินด้านที่ 1 ด้านที่ 2 และด้านที่ 3 ให้มีคณะกรรมการประเมิน 3 คน ประเมินพร้อมกันทั้ง 3 ด้าน และให้ดำเนินการภายในเวลา 3 เดือน นับแต่วันที่สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษา ได้รับคำขอจากสถานศึกษา 5.
เขตพื้นที่การศึกษา ให้หมายความรวมถึง อ. ที่ ก. ตั้งด้วย วิธีการ 1. ให้ผู้ประสงค์ขอรับการประเมินยื่นคำขอได้ตลอดปี รอบปีละ 1 ครั้ง โดยส่งคำขอพร้อมทั้งผลการปฏิบัติงาน(ด้านที่ 3) ซึ่งเป็นเอกสารผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน จำนวน 4 ชุด ต่อผู้บังคับบัญชาชั้นต้น เพื่อตรวจสอบและรับรองแล้วเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับ ถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กรณีผู้ที่จะเกษียณอายุราชการให้ยื่นคำขอพร้อมทั้งผลการปฏิบัติงาน(ด้านที่ 3) ซึ่งเป็นเอกสารผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน จำ นวน 4 ชุด ต่อผู้บังคับบัญชาชั้นต้น เพื่อตรวจสอบและรับรองแล้วเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับ ถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ ไม่น้อยกว่า 6 เดือน 2. ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารหลักฐาน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก. กำหนด และนำเสนอ อ. เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณา 3. ให้ อ. เขตพื้นที่การศึกษาตั้งคณะกรรมการประเมินด้านที่ 1 คือ ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ด้านที่ 2 คือ ด้านความรู้ความสามารถและด้านที่ 3 คือ ด้านผลการปฏิบัติงาน จำนวน 3 คน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการถานศึกษาของผู้ขอรับการประเมิน ผู้ทรงคุณวุฒินอกสถานศึกษานั้นที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมจำนวน 1 คน และข้าราชการครูที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะครูชำนาญการ และเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์สอดคล้องกับความรับผิดชอบของผู้ขอรับการประเมิน จำนวน 1 คน เป็นกรรมการ โดยให้ตั้งกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานกรรมการ 4.
แสดงความคิดเห็น / วิจารณ์ภาพยนตร์ / ความรู้สึกหลังดูหนัง
1 ดำรงตำ แหน่งครูมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ปีสำ หรับผู้มีวุฒิปริญญาตรี 4 ปีสำหรับผู้มีวุฒิปริญญาโท และ2 ปีสำหรับผู้มีวุฒิปริญญาเอก นับถึงวันที่ยื่นคำขอ หรือดำรงตำแหน่งอื่นที่ ก. ค. ศ. เทียบเท่า 1. 2 มีภาระงานสอนไม่ต่ำกว่าภาระงานขั้นต่ำตามที่ส่วนราชการต้นสังกัด กำหนด โดยความเห็นชอบของ ก. 1. 3 ได้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบด้านการเรียนการสอนและ การพัฒนาผู้เรียนย้อนหลัง 2 ปีติดต่อกัน นับถึงวันที่ยื่นคำขอ 2. ผู้ขอต้องผ่านการประเมิน 3 ด้าน ดังนี้ ด้านที่ 1 ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ พิจารณาจาก ข้อมูลของบุคคลและหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเอกสารหลักฐาน ดังนี้ ส่วนที่ 1 ประวัติการรับราชการ (ก. พ. 7) ส่วนที่ 2 คำรับรองของผู้บังคับบัญชา และคณะกรรมการสถานศึกษา ส่วนที่ 3 เอกสารหลักฐานที่แสดงการมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ด้านที่ 2 ด้านความรู้ความสามารถ พิจารณาจากการพัฒนางานในหน้าที่ และการพัฒนาตนเอง ดังนี้ ส่วนที่ 1 การเป็นผู้มีความสามารถในการจัดการเรียนการสอน พิจารณาจาก หลักสูตร แผนการจัดการเรียนรู้ สื่อ/นวัตกรรม แฟ้มสะสมผลงานคัดสรร ส่วนที่ 2 การพัฒนาตนเองเพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะในสาขา หรือกลุ่มสาระที่รับผิดชอบหรือในงานที่รับผิดชอบ พิจารณาจากการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ ด้วยวิธีการต่างๆ ผลการทดสอบความรู้จากหน่วยงานหรือสถาบันทางวิชาการที่ ก.
ระบบ I Smart Mg Zs, 2024