A: ตอนแรกที่เข้าร่วมงาน ผมเริ่มต้นด้วยงานด้านควบคุมคุณภาพ จากนั้นผมก็มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายการผลิต ซึ่งทำงานเกี่ยวกับกลไกจักรกลที่ขึ้นลานด้วยมือ คาลิเบอร์ 100 ซีรี่ส์ ของเรา ในช่วงสองปีที่ผ่านมาผมเป็นหัวหน้าช่างผู้ผลิตนาฬิกาที่ประกอบด้วยกลไกระบบออโตเมติก คาลิเบอร์ 400 ซีรี่ส์ Q: และงานนั้นเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง? A: งานของผมคือการคัดสรรคอนเซ็ปต์ที่ยอดเยี่ยมที่พัฒนาโดยหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ Beat Fischli และทีมของเขา และเพื่อส่งมอบกลไก คาลิเบอร์ 400 ซีรี่ส์ ให้พร้อมเพื่อประกอบเข้ากับนาฬิกา เช่น Aquis Date 41. คาลิเบอร์ 400 รุ่นใหม่ ซึ่งมีรายละเอียดมากมาย เราต้องตรวจเช็คชิ้นส่วน ตรวจสอบคุณภาพของชิ้นส่วนทุกชิ้น จัดการประกอบ ควบคุมคุณภาพของกลไกที่ประกอบและติดตั้งลงในตัวเรือนนาฬิกาอย่างสมบูรณ์ และโดยทั่วไปคือพร้อมที่จะตอบคำถามที่ทีมอื่นๆในบริษัทมีเกี่ยวกับ คาลิเบอร์ 400 ซีรี่ส์ Q: Oris ดำเนินการเกี่ยวกับการผลิตกลไกจักรกลออโตเมติกแบบใหม่อย่างไร? A: สำหรับเรา มันคือความสำคัญอย่างยิ่งที่นาฬิกาจักรกลจะสามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคนาฬิกาในปัจจุบันได้ ผู้คนต่างคาดหวังกับนาฬิกาหรูจำนวนมากอย่างที่ควรจะเป็น จะต้องมีทั้งความสวยงาม ฟังก์ชั่นการใช้งาน และความน่าเชื่อถือได้ อีกทั้งจะต้องใช้งานได้ตลอดชีวิต นั่นเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาหลายประการเมื่อคุณทำมันเสีย แต่ด้วยกลไก คาลิเบอร์ 400 ซีรี่ส์ ผมคิดว่าเราทำสำเร็จแล้ว Q: ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าอย่างไร?
Mobvoi ได้เปิดตัว TicWatch E3 ซึ่งเป็น Smart Watch รุ่นใหม่ล่าสุดได้เผยโฉมแล้ว โดยเป็นรุ่นที่ปรับลดสเปกจาก TicWatch 3 Pro ที่เปิดตัวช่วงเดือนธันวาคมในปีที่ผ่านมา จุดเด่นของนาฬิกาตัวนี้คือลดความลุยลงจากเดิม มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 1. 3 นิ้ว พร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 380 mAh พร้อมกับขุมพลัง Qualcomm Snadragon Wear 4100 พร้อมกับ RAM 1GB และมีความจภายใน 8GB และมีเซนเซอร์ วัดระดับ Oxygen ในเลือด หรือ SpO2, VO2Max, accelerometer, gyroscope, GPS และ NFC แถมยังมีลำโพงและไมโครโฟนในตัว แถมสีสันของเครื่องมีให้เลือกทั้งสีดำ, สีเหลือง, และ สีฟ้า โดยมีราคาเริ่มต้น 100 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3, 1xx และเปิดจำหน่ายแล้วในบางประเทศ
Smart Watch เป็นนาฬิกาเพื่อสุขภาพที่เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพและการออกกำลังกาย มีโหมดติดตามการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การนับก้าวเดิน การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การวัดระดับความเครียด ฯลฯ โหมดการออกกำลังกายและเล่นกีฬาต่าง ๆ เช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ โยคะ ฯลฯ นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานต่าง ๆ ได้ด้วย เช่น การแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่าง ๆ การโทรเข้า ฟังเพลง การตั้งปลุก ฯลฯ 4.
กลไก Calibre 400 ของ Oris ถูกพูดถึงกันอีกครั้ง หลังจากที่ถูกส่งมาประจำอยู่ในตัวเรือนขนาด 41. 3 มิลลิเมตร ของ Aquis Date และวันนี้เรามาดูบทสัมภาษณ์ของชายที่อยู่เบื้องหลังของการพัฒนากลไกรุ่นนี้ เบื้องหลังที่น่าสนใจกับการพัฒนากลไก Calibre 400 ของ Oris กลไก Oris Calibre 400 ถูกพูดถึงกันอีกครั้ง กับความยอดเยี่ยมของ In-House Calibre ของ Oris ซึ่งถูกถ่ายทอดและส่งต่อมายังนาฬิการุ่นใหม่ๆ โดยมี Aquis Date 41. 5 มม. เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด แน่นอนว่าเบื้องหลังที่นำมาสู่ความสำเร็จในครั้งนี้จะมีกลุ่มคนมากมายที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการทำงานในทุกขั้นตอน แต่ทว่ามีบุคคลหนึ่งที่สามารถอธิบายได้ดีที่สุดเกี่ยวกับความยอดเยี่ยมของกลไก Calibre 400 นั่นก็คือ เซดริก โรห์ริก (Cédric Röhrich) และในวันนี้เรามาดูบทสัมภาษณ์ของเขาที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในครั้งนี้กัน Q: เซดริก คุณเล่าเกี่ยวกับตัวคุณให้เราทราบสักเล็กน้อย… A: ผมชื่อ เซดริก โรห์ริก อายุ 27 ปี เป็นช่างทำนาฬิกาของ Oris มาตั้งแต่ปีค. ศ. 2014 เนื่องจากงานของผมค่อนข้างใช้ความเงียบ ผมจึงต้องกระตุ้นอะดรีนาลีนเป็นประจำ ดังนั้นผมจึงสนุกกับการเข้าสู่ธรรมชาติเพื่อไปดำน้ำหรือกระโดดร่ม แล้วอีกอย่างผมชอบตกปลา Q: คุณทำงานอะไรที่ Oris?
A: เราได้ทำการรับประกัน 10 ปีสำหรับกลไกทั้งหมดของ คาลิเบอร์ 400 ซีรี่ส์ และแนะนำให้เข้ารับบริการทุกๆ 10 ปี นั่นถือเป็นเรื่องที่ไม่ปกติมากๆ สำหรับนาฬิกาจักรกล ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เราเรียกมันว่ามาตรฐานใหม่ สิ่งที่เราต้องการและสิ่งที่เราคาดหวังคือเรากำลังส่งต่อนาฬิกาให้กับผู้คนทั่วโลก เพื่อให้พวกเขาสวมใส่ด้วยความยินดีและภาคภูมิใจ ตัวผมเองก็เป็นลูกค้าของ Oris ด้วยเช่นกัน ผมใส่นาฬิกา Oris รุ่น Aquis Date Caliber 400 มาได้หลายเดือนแล้ว ผมไม่ได้ใส่มันทุกวัน แต่ผมไม่เคยต้องไขลานหรือปรับมันเลย ความเที่ยงตรงของมันทำให้ผมตกตะลึงถึงแม้ผมจะเข้าใจดีอยู่แล้วว่ากลไกนาฬิกานี้ทำงานอย่างไร! Q: ความเที่ยงตรงระดับไหนที่เรากำลังพูดถึง? A: เรารับประกันความเที่ยงตรงระดับ -3 ถึง +5 วินาทีต่อวัน แต่สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือนาฬิกาไม่ควรเดินช้าไม่ว่าในกรณีใดๆก็ตาม ผมชอบที่จะมาถึงก่อนเวลานัดหมายมากกว่าที่จะมาสาย ในกรณีของสนามแม่เหล็กมันสามารถสันนิษฐานได้ว่านาฬิกาจะกลับสู่ระดับความเที่ยงตรงเท่าเดิมทันทีที่ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของสนามแม่เหล็ก Q: เพราะเหตุใดจึงต้องเน้นเรื่องการต้านทานสนามแม่เหล็ก? A: เราเผชิญกับสนามแม่เหล็กได้ทุกหนทุกแห่งจากสภาพแวดล้อมในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะในรถยนต์ ตอนทำอาหารที่บ้าน หรือการชาร์จโทรศัพท์ของเรา… และผมเชื่อว่าเราจะต้องเผชิญกับสนามแม่เหล็กอีกมากมายในอนาคต เราต้องคำนึงถึงเรื่องนี้เมื่อเราทำการออกแบบกลไกใหม่ เพราะมีใครบ้างที่อยากให้นาฬิกาของพวกเขาทำงานอย่างไม่เที่ยงตรง?
ระบบ I Smart Mg Zs, 2024